No tags yet.
หากพูดถึงสมุนไพรท่ีใช้บำรุงร่างกาย ส่วนใหญ่จะนึกถึงสมุนไพรจีน เช่น โสมหรือถั่งเช่า นอกจากน้ียังมีสมุนไพรท่ีมีสรรพคุณบำรุง ร่างกายยังมีอีกหลายชนิดทั้งที่มาจากจีน อินเดีย (เครื่องเทศต่างๆ) หรือสมุนไพรของไทยที่ปัจจุบันเริ่มมีการศึกษาถึงสรรพคุณกลไก การออกฤทธิ์และสารสำคัญในเชิงวิทยาศาสตร์มากขึ้นบทความนี้จะทำให้ทุกคนรู้จักสุดยอด สมุนไพรบำรุงร่างกายให้มากยิ่งขึ้น
โสม โสมจัดเป็นยาอายุวัฒนะเลื่องช่ือของชาวเอเชียมานานหลายพันปี เป็นยาบำรุงกำลังขนานเอก โดยเฉพาะโสมเกาหลี ซึ่งมีฤทธ์ิร้อนจึงเหมาะกับคนท่ีมีพลังช่ีพร่อง (การพร่องลงของพลังช่ีและเลือดภายในร่างกาย) คือคนที่มีร่างกายอ่อนแอ รู้สึกเหนื่อยง่าย กลัวหนาวมือเท้าเย็น ไม่สบายบ่อยๆ ล้ินและริมฝีปากซีด และยังเหมาะกับคนท่ีเป็นโรคโลหิตจางอีกด้วย โสมสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ โสมขาว คือ โสมสดที่ล้างทำความสะอาดแล้วตากให้แห้งก่อนใช้งาน และโสมแดงคือโสมขาวที่นำไปผ่านวิธีการอบเพื่อให้มีสรรพคุณทางยามากขึ้น รากจะเปลี่ยนเป็น สีน้ำตาลอมแดงและมีความชื้นเล็กน้อย โสมแดงน้ีถือว่ามีคุณค่าทางยามาก
HYFRGTM Fermented Red Ginseng (Advanced Nutraceutical Pte Ltd./ Singapore) เป็นสารสกัดโสมแดงจากประเทศเกาหลีที่ผ่านกระบวนการหมักด้วยเอนไซม์และจุลินทรีย์ แลกโตบาซิลลัส เพื่อทำให้ปริมาณสารเมตาโบไลต์ของจินซีโนไซด์หลายตัว เช่น Rh2, Rg3, C-K, PPD เพิ่มขึ้นและอยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีส่งผลให้ได้รับประโยชน์จากการรับประทานสูงสุด โดยเฉพาะสาร C-K (Compound K) ซึ่งพบเฉพาะในโสมแดงที่ผ่านการหมักแล้วเท่านั้น มีการศึกษาทางคลินิกพบว่า C-K มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายด้าน เช่น มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นช่วยปกป้องผิวป้องกันการเกิดอาการแพ้และ โรคอัลไซเมอร์และช่วยเสริมสมรรถภาพเพศชายได้อีกด้วย
2. ถั่งเช่า ถั่งเช่าเป็นเห็ดชนิดหนึ่ง มีต้นกำเนิดมาจากพื้นท่ีราบสูงในธิเบตและเนปาล พบได้ตามธรรมชาติในช่วง ฤดูใบไม้ผลิ ตามตำราการแพทย์แผนจีน ถั่งเช่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยในการบำรุงอวัยวะสำคัญ 2 อย่าง คือ ไตและปอด โดยมีสารสำคัญคือ คอร์ไดเซปิน (Cordycepin) มีฤทธ์ิบำรุงไต กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ช่วยรักษาสมดุล ของคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ป้องกันโรคหัวใจ บำรุงปอด หลอดลมและกล่องเสียง ช่วยควบคุมเบาหวาน รวมถึงมีฤทธิ์เสริมสมรรถภาพทางเพศ ถั่งเช่าจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “สมุนไพรบำบัดอาการอ่อนเพลียได้ ร้อยชนิด” แต่เนื่องจากเป็นสมุนไพรท่ีหาได้ยากจึงทำให้มีราคาแพงมาก ปัจจุบันมีการปลูกถั่งเช่าขึ้นเองได้จึงทำให้ทุกคนมีโอกาสได้บริโภคถั่งเช่ามากขึ้นโดย Cordyceps sinensis (Aloha Medicinals, Inc./USA) เป็นถั่งเช่าสายพันธุ์ธิเบตแท้ ปลูกในสภาวะแบบเดียวกับในธรรมชาติคือมีออกซิเจนและมีอุณหภูมิต่ำ ได้รับการรับรองจาก USDA ว่าเป็นสินค้าออร์แกนิค
3. ตังกุย เป็นสมุนไพรท่ีมีสรรพคุณเด่นในด้านการบำรุงเลือด บางคร้ังจึงเรียกว่าเป็น “Female Ginseng” ส่วนท่ีนำมาใช้บริโภคคือราก ซึ่งจะมีกลิ่นหอม มีรสหวานอ่อนอมขมและเผ็ดในตังกุยมีสารสำคัญหลายชนิด เช่น Alkyl phthalides, terpenes, ferulic acid และน้ำมันหอมระเหย เป็นต้น โดยสาร Ligustilides ถือเป็นสารสำคัญที่มีสรรพคุณในการบำรุงเลือด ดังนั้นตังกุยจึงถูกนำมาใช้รักษาอาการประจำเดือนมาช้า มาน้อย สีจางอ่อนหรือประจำเดือนขาดหายไป นอกจากน้ียังมีฤทธ์ิสลายเลือดคั่งจึงช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้ร่างกายคลายความเมื่อยล้า/อ่อนเพลีย และมีฤทธิ์ป้องกันการอักเสบได้อีกด้วย
4. ชาเขียว ชาเขียวเป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง สมัยก่อน ผู้ใหญ่ถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักโดยดื่มในรูปแบบร้อน แต่ในปัจจุบันชาเขียวถูกนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด เช่น ชาเขียวพร้อมดื่ม ไอศกรีม ขนม เพื่อ ทำให้สามารถรับประทาน/ดื่มได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด สารสำคัญที่ให้ ประโยชน์ในชาเขียวเป็นสารในกลุ่มโพลีฟีนอล (polyphenols) ท่ีเรียกกันว่า “คาเทชิน (catechin)” โดยคาเทชินที่พบในชาเขียว ได้แก่ Epigallocatechin-3-gallate (EGCG), Epigallocatechin (EGC), Epicatechin-3-gallate (ECG), Epicatechin (EC), Catechin และ Gallocatechin (GC) ซึ่ง EGCG เป็นสารที่มีปริมาณมากที่สุดและจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมีประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระมากกว่า วิตามินซีและวิตามินอีถึง 25-100 เท่า ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล เนื่องจากเข้าไปกระตุ้นการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ของไขมันทำให้เกิดการเผาผลาญเน้ือเยื่อไขมัน ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของหลอดเลือดอุดตันและอวัยวะขาดเลือด จึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุท่ีมีภาวะสมองขาดเลือดไปเลี้ยงหรือโรคอัลไซเมอร์ กระตุ้นการสร้างเซลล์ที่เกี่ยวกับระบบภูมิต้านทานในร่างกายบรรเทาอาการอักเสบการติดเชื้อในช่องปาก และระงับกลิ่นปาก Green Tea Extract (90TVP 40EGCG) (Hangzhou Choisun Bio-Tech Co., Ltd./China) เป็นสารสกัดจากชาเขียวท่ีมีปริมาณ EGCG สูงถึง 40% และสามารถละลายได้ท้ังในน้ำและแอลกอฮออล์ให้สารละลายสีเหลืองอมน้ำตาลอ่อน จึงสามารถนำไปประยุกต์ ใช้ได้ในหลายๆผลิตภัณฑ์ เช่น เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบต่างๆ หรือ เครื่องสำอาง เป็นต้น
5.ขมิ้นชัน ขมิ้นชันที่นิยมรับประทานกันเพื่อรักษาอาการท้องผูกหรือท้องอืดนั้นปัจจุบันถือเป็นสมุนไพรที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากมีการศึกษาพบว่าสารสำคัญ สีเหลืองส้มในขมิ้นชันท่ีเรียกว่า “เคอร์คูมินอยด์ (curcuminoid)” เป็นสารต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นและต้านการอักเสบที่ม่ีฤทธ์สูงและช่วยป้องกันมะเร็งได้นอกจากนี้เคอร์คูมินอยด์จากขมิ้นชันยังสามารถป้องกันอาการความจำเสื่อมในผู้ป่วย โรคอัลไซเมอร์ได้โดยเข้าไปยับยั้งการสร้างเบต้าอะไมลอยด์ (beta-amyloid) และยับยั้งการทำงานของอะซิทิลโคลีนเอสเตอเรส (acetylcholinesterase) จึงมีผลช่วยป้องกัน สารอะซิทลิโคลีน (acetylcholine) ในสมองไม่ให้ถูกทำลายได้
NovaSOL® Curcumin (Frutarom/Switzerland) เป็นสารสกัดจากขมิ้นชันท่ีผ่าน กระบวนการ Solubilization ให้มีโครงสร้างเป็นแบบไมเซลล์ทำให้สามารถละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมันมีความคงทนต่อความร้อน ทนต่อค่าpH ในช่วงที่กว้างขึ้นคือpH 1.1-8.0 ทำให้สามารถประยุกต์ใช้ในสินค้าได้หลากหลายชนิดนอกจากนี้ NovaSOL® Curcumin ยังมีผลการทดสอบทางคลินิกในด้านชีวปริมาณออกฤทธ์ิ (Bioavailability) เมื่อทดสอบ กับผู้ทดสอบจำนวน 24 คน พบว่า 1 กรัม ของ NovaSOL® Curcumin มีค่า bioequivalent เท่ากับ 180 กรัมของสารสกัดจากขมิ้นมาตรฐาน บ่งชี้ได้ว่าร่างกายสามารถนำสาร สกัดนี้ไปใช้ประโยชน์ได้สูงกว่า สารสกัดจากขมิ้นชันโดยทั่วไป จะเห็นได้ว่าสุดยอดสมุนไพรทั้ง 5 ชนิดนี้ นอกจากช่วยให้บำรุงร่างกายแล้วยังมีสรรพคุณป้องกันโรคต่างๆได้อีกด้วย ต่อจากน้ีไปอยากให้ทุกคนเร่ิมดูแลสุขภาพตนเองโดยการรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์และมีส่วนผสมของสุดยอดสมุนไพร เช่น ไก่ตุ๋นโสม/ถั่งเช่า ข้าวหมกไก่ แกงเหลือง ข้าวซอย หรือชาเขียวร้อนๆซักถ้วยเป็นประจำควบคู่กับการออกกำลังกาย เท่านี้ร่างกายก็จะสดชื่นแข็งแรงอยู่เสมอ
