แนวโน้มและโอกาสของธุรกิจความงามและสุขภาพในเอเชีย

ในโอกาสฉลองครบรอบ 20 ปีของ บริษัทเคมีโก้ อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บรรดาพันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้าต่างให้เกียรติมาเปิด วิสัยทัศน์และมุมมองเก่ียวกับแนว โน้มและโอกาสของธุรกิจความงามและสุขภาพในเอเชีย

Dr. Dominique Lutz ผู้ก่อตั้ง HelioScreen ประเทศฝรั่งเศสซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการทางด้าน การตรวจสอบแบบ in vitro สำหรับผลิตภัณฑ์ ป้องกันแสงแดดแบบครบวงจร

จุดเริ่มต้นของ HelioScreen Asia

ผมมีความชำนาญทางด้านเทคโนโลยีและมีประสบการณ์ ด้านการทดสอบผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดมากกว่า 15 ปี ขณะ ที่เคมีโก้มีทีมการตลาดและการขายที่แข็งแกร่ง ผมและผู้บริหาร ของเคมีโก้มีทัศนติและมุมมองธุรกิจเหมือนกัน เราจึงจับมือกัน จัดต้ังบริษัทร่วมค้า HelioScreen Asia เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการ ทางด้านการทดสอบ in vitro SPF, in vitro UVA-PF, critical wavelength,

water resistance และ photostability สำหรับผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดแบบครบวงจร ห้องปฏิบัติการที่ประเทศไทยได้รับการออกแบบมาตรฐานเดียวกับที่ฝรั่งเศสทุกอย่าง รวมถึงอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ วิธีการทดสอบ และบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรม จากทีมงานในฝรั่งเศส HelioScreen Asia จึงสามารถให้บริการทางด้านการทดสอบ invitroUVได้แม่นยำและดีที่สุดในเอเชีย

จุดเด่นของการทดสอบ in vitro UVin vitro เป็นการทดสอบเชิงวิเคราะห์บนแผ่นทดสอบ HD6 ซึ่งเป็นสิทธิบัตรของ

ทางบริษัท HelioScreen ฝรั่งเศส โดยแผ่นการทดสอบเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้ระบุไว้ตาม มาตรฐานของ ISO และ COLIPA มีการใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยการตั้งค่าจึงมีความแน่นอน บวกกับหลากหลายขั้น ตอนในห้องปฏิบัติการที่ผ่าน ISO 24443 การทดสอบแบบ in vitro จึงมีค่าความผันแปรต่ำ ช่วยประหยัดท้ังเวลาและค่าใช้จ่ายแตกต่างกับการทดสอบ in vivo ซึ่งเป็นการทดสอบบนผิวมนุษย์ผ่านกลุ่มตัวอย่าง การจำกัด ค่าความผันแปรทำได้ยาก ใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง บริษัทผู้ผลิตชื่อดัง ทางยุโรปเริ่มหันมาใช้การทดสอบแบบ in vitro UV มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้ผู้ผลิตในเอเชีย ยังไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องการทดสอบผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ขนาดของธุรกิจ การให้บริการในด้านนี้ยังเล็กมากการมาเปิดสาขาที่ประเทศไทยซึ่งเป็นสาขาแรกในเอเชีย จึงเป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ผลิต ในอนาคต สาขาประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางในโซนเอเชีย ความสำคัญเรื่องมาตรฐานและกฎระเบียบของผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด

ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดในยุโรปจะมีมาตรฐานและกฎระเบียบแบบเดียวกัน ที่บังคับใช้เหมือนกันในทุกประเทศโซนยุโรปคือต้องระบุค่า SPF และ UVA-PF อย่างชัดเจน ส่วนเอเชียแต่ละประเทศจะมีกฎระเบียบของตัวเอง ประเทศไทย ไม่ได้มีข้อบังคับเรื่องการกำหนดค่า UVA-PF นอกเสียจากว่าต้องมีการควบคุม ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่มีความรู้หรือมีความเข้าใจที่ผิด ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนักการตลาดควรสื่อสารข้อมูลให้ผู้บริโภคเข้าใจอย่างถูกต้อง สื่อให้เห็นค่าความ สัมพันธ์ระหว่าง SPF และ UVA-PF เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบ ผมเชื่อว่าอนาคตอันใกล้ประเทศกลุ่มเอเชียจะมีการปรับแก้ไขกฎระเบียบเพื่อผลักดัน ให้ผู้ผลิตมีการกาหนดค่า SPF และ UVA-PF แบบละเอียดและถูกต้องตามมาตรฐาน สากล เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจง่ายและไม่สับสนในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ในขณะเดียวกันยังช่วยกระตุ้นให้ผู้ผลิตเห็นถึงความจำเป็นในการทดสอบแบบ in vitro